ปัญหาหลักของเราก็ คือ โรงเรือนเราไม่สามารถป้องกันผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ เมื่ออากาศร้อน ก็ต้องการความเร็วลมสูง ทำให้ต้องติดตั้งฝ้าต่ำภายในโรงเรือน เพื่อให้ได้ความเร็วลมที่ต้องการ
ซึ่งโรงเรือนที่สร้างกันในบ้านเรา ไม่เอื้ออำนวยให้เราทำแบบนั้นได้ เพราะการออกแบบโรงเรือนเป็นการลอกต่อ ๆ กันมา คนสร้างกับคนใช้เข้าใจกันคนละแบบ ปัจจุบันมีการพัฒนาแบบของโรงเรือนไปแล้ว แต่ในบ้านเราคนออกแบบโรงเรือนที่เข้าใจความต้องการของไก่จริง ๆ ไม่มี ทำให้โรงเรือนที่เราสร้างกันที่ลอกแบบกันมาและไม่มีการพัฒนา
หลักของการออกแบบโรงเรือนที่ดี คือ ช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศภายนอก นั่นคือเหตุผลในแต่ละฤดู เราไม่สามารถใส่ไก่ได้เท่ากัน”
สาเหตุสำคัญที่ในแต่ละฤดูเราไม่สามารถใส่ไก่ได้เท่ากัน
1. สภาพอากาศ ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละฤดู
เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงตามแต่ละฤดูกาล พออากาศร้อน ภายในก็ร้อน พอเข้าอากาศหนาว ข้างในก็หนาว ทำให้เราไม่สามารถใส่ไก่ได้เท่ากันในทุกฤดู
2. ควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนให้คงที่ไม่ได้
สภาพแวดล้อม และอุณหภูมิในโรงเรือนให้เปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศภายนอก ทำให้มีความสม่ำเสมอได้ตลอดทั้งปีไม่ได้
3. ไม่ตรวจสอบสภาพภายในโรงเรือน
หากผู้เลี้ยงไม่ตรวจสอบ สภาพอากาศภายในโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดปัญหาสภาพแวดล้อมอากาศไม่คงที่อาจจะเกิดจากรอยรูรั่วของผ้าใบ ทำให้สภาพแวดล้อมภายในโรงเรือนคุมไม่ได้
4.โรงเรือนที่ใส่ผ้าใบข้าง ทำให้การควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ค่อยดี
โรงเรือนที่เราใช้อยู่เป็นโรงเรือนที่ใส่ผ้าใบข้าง ทำให้การควบคุมอุณหภูมิได้ไม่ค่อยดี เพราะ ผ้าใบข้างเมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะเสื่อมคุณภาพ ทำให้เกิดรูรั่ว ไม่ดูแล
สร้างโรงเรือนที่มีด้านข้างเป็นกำแพง (Solid Wall)
ถ้าเราสามารถออกแบบโรงเรือนให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนให้ได้ตามเราต้องการ เราก็สามารถกำหนดจำนวนไก่ที่จะเข้าได้สม่ำเสมอตลอดทั้งปี แต่หลายคนในบ้านเรา พอได้ยินแบบนี้ก็จะเกิดความคิดว่า ลงทุนสูง ไฟดับจะทำยังไง ?
ลงทุนครั้งแรกสูง แต่อยู่ทน
ไม่ต้องกลัวเรื่องรอยรั่ว ไม่ต้องกังวลไปหาซื้อมาเปลี่ยน สิ่งสำคัญคือ สามารถรักษาอุณหภูมิให้คงที่ ทำให้เราสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนง่ายขึ้น ต้นทุนถูกลง เพราะเราสามารถใช้แก็สกกไก่ลดลงในหน้าหนาว ใช้พัดลมลดลงในหน้าร้อน
ลดความเสียหาย
ปกติเราก็มีเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินอยู่ในฟาร์มอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบหรือกำแพง แต่สิ่งสำคัญ คือ การออกแบบโรงเรือนที่ปัจจุบันมักติดตั้งฝ้าต่ำในโรงเรือน โดยคิดว่าจะช่วยลดจำนวนพัดลมที่ต้องติดตั้ง และจะได้ลมที่มีความเร็วขึ้น
แต่การออกแบบแบบนี้ เวลาไฟดับ ความร้อนในเล้าจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก จนเป็นเหตุให้ไก่ตายเพราะร้อนมาก หลักการของการออกแบบโรงเรือนที่ถูกต้อง ต้องให้มีความสูงพอที่จะให้ความร้อนที่เกิดขึ้นตอนไฟดับลอยขึ้นไปได้ แต่มันจะช่วยชะลอความเสียหายออกไปในกรณีที่เราติดเครื่องปั่นไฟไม่ทัน สำหรับช่วงไก่กลาง โรงเรือนที่มีความสูงมาก จะไม่เกิดความเสียหายเลย เมื่อไฟดับ แต่ก็ไมได้หมายความว่า จะไม่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ หรือเปิดประตูตอนไฟดับนะครับ ยังต้องทำอยู่
แล้วเมื่อ ไฟดับ จะทำอย่างไร ?
ปกติเราก็มีเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินอยู่ในฟาร์มอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบหรือกำแพง แต่สิ่งสำคัญ คือ การออกแบบโรงเรือนที่ปัจจุบันมักติดตั้งฝ้าต่ำในโรงเรือน โดยคิดว่าจะช่วยลดจำนวนพัดลมที่ต้องติดตั้ง และจะได้ลมที่มีความเร็วขึ้น
แต่การออกแบบแบบนี้ เวลาไฟดับ ความร้อนในเล้าจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก จนเป็นเหตุให้ไก่ตายเพราะร้อนมาก
ผลลัพธ์ที่ได้เมื่อสร้างโรงเรือนที่มีด้านข้างเป็นกำแพง
- ควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนได้ดีกว่า
- อยู่ทนกว่า
- ลดต้นทุนในการกกไก่ลงประมาณอย่างน้อย 1 ใน 3
- ลดการใช้พัดลมลงในช่วงหน้าร้อน
สรุปง่าย ๆ คือ โรงเรือนที่เรามีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมให้คงที่ได้ เราจึงใส่ไก่ได้ไม่เท่ากันในแต่ละฤดู
เจ้าของฟาร์มหรือเกษตรกรคนไหนมีปัญหาต้องการคำแนะนำจากหมอไก่ ติดต่อข้อความ Facebook เพจ : หมอไก่ (ลิงก์คลิก https://www.facebook.com/mhorpoultry)