อยากพัฒนาฟาร์มให้เติบโต เพิ่มคุณภาพผลผลิต แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร😓 ถึงเวลาแล้วที่เกษตรกรยุคใหม่ต้องปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยี! ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ผลกำไรต่ำ เกิดอัตราการชะลอตัวการเติบโตของธุรกิจ ทั้งต้นทุน ค่าแรง และวัสดุสิ้นเปลือง ก็เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตโดยตรง
ปลดล็อกขีดจำกัดการทำฟาร์มรูปแบบใหม่ ไปพร้อมกันด้วยระบบ SmartFarmPro พร้อมหนุนหลังเจ้าของธุรกิจฟาร์มให้ยกระดับการทำฟาร์มไปอีกขั้นที่เหนือกว่า ที่จะช่วยลดทั้งขั้นตอนการทำงาน และเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ดีขึ้นกว่าที่เคย
แล้วอะไรคือเคล็ดลับ.. ที่จะช่วยให้ธุรกิจฟาร์มของเติบโตไปอีกขั้นตามมาดูกัน!
1. เริ่มวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของฟาร์ม
ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือ เจ้าของฟาร์มต้องเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของฟาร์ม รู้ insight ของฟาร์ม ซึ่งเป็นข้อมูลหลักที่จะช่วยวิเคราะห์ทั้งด้านการจัดการ การผลิต ผลผลิต และต้นทุน ได้อย่างรอบด้านมากขึ้น ระบบสมาร์ทฟาร์ม หรือ SmartFarmPro สามารถช่วยให้เจ้าของฟาร์มหรือเกษตรกรติดตามข้อมูลต่างๆ ภายในฟาร์มทั้งในแง่ของ สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ สุขภาพ สามารถนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ แล้วปรับให้ตรงกับความต้องการของสัตว์
✅ จุดแข็งของฟาร์ม เช่น ผลผลิตที่ได้คุณภาพดี ตลาดรองรับดี มีแรงงานเพียงพอ มีเทคโนโลยีบางส่วนอยู่แล้ว
⭕️ จุดอ่อน ของฟาร์ม เช่น กระบวนการทำงานที่ยุ่งยาก สิ้นเปลืองเวลา เกิดการสูญเสียระหว่างการผลิต ต้นทุนสูง ขาดแคลนแรงงาน
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยระบุถึงต้นตอปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อทราบจุดแข็ง-จุดอ่อนแล้ว เกษตรกรสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ว่าจะแก้ปัญหาจุดอ่อนของฟาร์มที่เกิดขึ้นอยู่ได้อย่างไร
ตัวอย่าง
- ปัญหาเรื่องสุขภาพสัตว์: เกษตรกรสามารถใช้ระบบสมาร์ทฟาร์ม หรือ SmartFarmPro เข้ามาช่วยติดตามพฤติกรรม สภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ระหว่างการเลี้ยงแบบเรียลไทม์ แล้วแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที
- ปัญหาเรื่องต้นทุนสูง: เกษตรกรสามารถใช้ระบบสมาร์ทฟาร์มหรือ SmartFarmPro ติดตามอุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่าง เพื่อประหยัดพลังงาน และลดแรงงานเข้าไปจัดการหน้าฟาร์ม
2. ปรับขั้นตอนการทำงานใหม่
ระบบสมาร์ทฟาร์มหรือ SmartFarmPro สามารถช่วยให้คุณลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น ตัวอย่างเช่น ติดตามการเลี้ยงภายในฟาร์มได้ทันที ช่วยประหยัดเวลา รวมถึงมีระบบให้อาหารอัตโนมัติ พร้อมวิเคราะห์อัตราการกินต่อวัน และมั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงภายในฟาร์มได้รับอาหารอย่างเพียงพอและทั่วถึง ลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน ควบคุมและดูแลฟาร์มได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้แรงงานคนมาก
นอกจากนี้ระบบสมาร์ทฟาร์ม หรือ SmartFarmPro มีระบบอะไรบ้าง ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพของผลผลิตให้ดีขึ้น ?
- ระบบควบคุมสภาพแวดล้อม: ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมสามารถช่วยให้คุณสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของสัตว์
- ระบบติดตามสุขภาพ: ระบบติดตามสุขภาพสามารถช่วยให้คุณระบุถึงปัญหาสุขภาพของสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว
ระบบวิเคราะห์ข้อมูล: ระบบวิเคราะห์ข้อมูลรายวัน-รายสัปดาห์ มั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงจะเติบโตได้ตรงตามมาตรฐาน
3. พัฒนาการเลี้ยงต่อเนื่อง
ระบบ Smart Farm สามารถช่วยให้คุณติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการสัตว์เลี้ยงได้อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อระบุถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และปรับปรุงวิธีการเลี้ยงให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ตัวอย่างของการติดตามการเลี้ยงด้วยระบบสมาร์ทฟาร์มหรือ SmartFarmPro:
- การติดตามการเจริญเติบโต: สามารถติดตามการเจริญเติบโตของสัตว์เลี้ยงรายวันเพื่อนำมาพัฒนาและปรับแผนการเลี้ยงได้อย่างเหมาะสม
- การติดตามสุขภาพสัตว์: สามารถติดตามสุขภาพสัตว์ ผ่านการมอนิเตอร์ในระบบเพื่อระบุถึงสาเหตุของปัญหาสุขภาพ หรืออาการป่วยได้ทันที
- การติดตามผลลัพธ์: สามารถติดตามผลผลิตของคุณผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อระบุถึงโอกาสในการปรับปรุงวิธีการเลี้ยงของคุณ
ระบบสมาร์ทฟาร์มหรือ SmartFarmPro เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ภายในฟาร์มได้แบบเรียลไทม์ พร้อมช่วยผลักดันให้ธุรกิจฟาร์มของคุณเติบโตไปอีกขั้น ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพการผลิต ปรับปรุงผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต รวมถึง บริหารจัดการฟาร์มได้ง่ายขึ้น และช่วยให้เกษตรกรสามารถนำข้อมูลที่ได้มาตัดสินใจวางแผนการเลี้ยงได้ตรงจุดมากขึ้น
ที่สำคัญคือควร วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของฟาร์ม เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม และมีการติดตั้งใช้งานอย่างถูกต้อง SmartFarmPro มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการติดตั้งระบบสมาร์ทฟาร์มโปรติดต่อได้ที่ไลน์ @SmartFarmPro (ปรึกษาฟรี!)