Tips

แนะนำ! 11 สายพันธุ์ไก่ พันธุ์ไหนน่าเลี้ยง ออกไข่ได้ทุกวัน?

สายพันธุ์ไก่ไข่ น่าเลี้ยง ปี 2022

เกษตรกรมือใหม่หัดเลี้ยงไก่ หรือเพิ่งเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่อยู่ แล้วสงสัยว่ามีไก่สายพันธุ์ไหนบ้าง เพราะจะได้เลือกสายพันธุ์กันได้อย่างถูกต้องและตอบโจทย์ ซึ่งไก่มีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์ไก่ไข่ ไก่เนื้อ และมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ขน ขนาด น้ำหนัก รวมถึงลักษณะนิสัย แต่ละพันธุ์ก็มีความสามารถในการออกไข่ต่อปีที่มีปริมาณแตกต่างกัน “บางสายพันธุ์ออกได้สูงสุดเกือบ 400 ฟองต่อปีเลยทีเดียว!” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ต่อการเลือกซื้อสายพันธุ์ไก่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 11 สายพันธุ์ไก่ไข่ จะมีสายพันธุ์ไหน น่าเลี้ยงบ้างตามมาดูกัน..

1.ไก่เวียนดอทท์ (Wyandotte)

ไก่เวียนดอทท์ (Wyandotte)

ไก่เวียนดอทท์เป็นสายพันธุ์ไก่อเมริกัน สายพันธุ์นี้จะโดดเด่นในเรื่องการออกไข่ที่ดี และมีลักษณะขนที่สวยงาม นอกจากนี้ ไก่เวียนดอทท์ยังดูแลและจัดการได้ง่าย พบเห็นทั่วไป ในสวนหลังบ้านซึ่งหลาย ๆ คนเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงามและกินไข่ ไก่ชนิดนี้เริ่มออกไข่ได้เมื่ออายุได้ประมาณ 18-20 สัปดาห์ สีไข่มีสีน้ำตาลและมีขนาดไข่ที่ใหญ่ น้ำหนักแม่ไก่เฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 กิโลกรัม รักความสงบและให้ผลผลิตเนื้อสูง ให้ไข่สูงถึง 200 ฟองต่อปี และเป็น 1 ในสายพันธุ์ไก่ที่ดีที่สุดในการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ

2.ไก่มาแรน (Maran)

ไก่มาแรน (Maran)

ไก่มาแรนเกิดการเพาะพันธุ์ครั้งแรกในประเทศอังกฤษ แต่ได้ชื่อมาจากเมืองมาเรนส์ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งไก่สายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงในฟาร์มเพื่อผลิตเนื้อสัตว์และไข่ไก่ มีความสามารถในการออกไข่ได้ปีละ 150-200 ฟองต่อปี บางตัวของสายพันธุ์นี้เริ่มออกไข่ได้ตั้งแต่อายุ 17 สัปดาห์ ไก่ชนิดนี้มีหลากหลายสีเช่น สีน้ำตาลเข้ม สีเงิน สีทอง และมีลวดลายคล้าย ๆ ไก่บาร์พลี ไก่มาแรนตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 2.4 กิโลกรัม ซึ่งจะมีลักษณะสีเปลือกไข่ที่พิเศษ คือ สีช็อคโกแลต ไก่าแรนไม่ต้องการพื้นที่ที่กว้างมากนัก เป็นไก่ที่นิสัยอ่อนโยน ไม่เสียงดัง และง่ายต่อการควบคุม

3.ไก่บาร์เนเวลเดอร์ (Barnevelder)

ไก่บาร์เนเวลเดอร์ (Barnevelder)

ไก่บาร์เนเวลเดอร์เป็นไก่บ้านสายพันธุ์ดัตช์เยอรมัน ไก่ชนิดนี้ให้ไข่ค่อนข้างดีเฉลี่ยอยู่ที่ 180-200 ฟองต่อปี เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ ตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ย 2.9-3.9 กิโลกรัม เร่ิมวางไข่เมื่อเริ่มมีอายุได้ 5 เดือนครึ่งไปแล้ว สีของเปลือกไข่เป็นสีน้ำตาลและเป็นไก่ที่ให้ไข่ได้ตลอดปีโดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศใด ๆ

4.ไก่แอนโคน่า (Ancona)

ไก่แอนโคน่า (Ancona)

ไก่สายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากเมืองแอนโคน่าในประเทศอิตาลี เมื่อเปรียบเทียบกับไก่สายพันธุ์อื่น ๆ แล้วจะค่อนข้างตัวเล็กกว่า แต่สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ไก่สายพันธุ์แอนโคน่า คือ ไก่แอนโคน่าสามารถวางไข่ได้ถึงปีละ 180-220 ฟองต่อปี โดยการเริ่มวางไข่ของไก่สายพันธุ์นี้จะเริ่มวางไข่ได้เมื่ออายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 สัปดาห์ ไก่ชนิดนี้มีผิวสีเหลือง ไข่เป็นสีขาว น้ำหนักไก่ตัวเมียเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8-2 กิโลกรัม ไก่ชนิดนี้ทนต่อสภาพอากาศที่โหดร้าย วางไข่ได้แม้ในช่วงฤดูหนาว หรือปริมาณแสงน้อยถึงจะต้องตัดขนปีกบ่อย ๆ ก็ตาม ซึ่งไก่ชนิดนี้จะชอบบินและขี้ตกใจ

5.ไก่ฮัมบูร์ก (Hamburg)

ไก่ฮัมบูร์ก (Hamburg)

ไก่ฮัลบูร์กเป็นสายพันธุ์ไก่ที่เกิดขึ้นในประเทศฮอลแลนด์ โดยทั่วไปแล้วไก่สายพันธุ์ฮัมบูร์กจะได้รับการยกย่องว่าเป็นไก่ที่ค่อนข้างมีเสน่ห์เนื่องจากมีหลากหลายสี เช่น สีทอง สีเงิน สีดำ สีขาว และสีฟ้า ความสามารถในการวางไข่ 208 ฟองต่อปี โดยทั่วไปแล้วไข่จะมีขนาดกลาง และมีเปลือกไข่สีขาวมันวาว เริ่มวางไข่ได้ตั้งแต่อายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มวางไข่ได้เมื่อมีอายุประมาณ 28 สัปดาห์ ไก่ชนิดนี้เป็นนักสำรวจและนักล่าผู้หิวกระหาย ควบคุมได้ยาก เนื่องจากไก่ชนิดนี้จะชอบบิน และกระโดดขึ้นไปอยู่ตามต้นไม้ และวางไข่ไม่เป็นที่ น้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม

6.ไก่นิวแฮมเชียร์ (New Hampshire)

ไก่นิวแฮมเชียร์ (New Hampshire)

ไก่สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นในรัฐนิวแฮมเชียร์ประเทศสหรัฐอเมริกา บรรพบุรุษของไก่สายพันธุ์นี้คือ ไก่โร้ดไอส์แลน์ อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกร และมีชื่อเสียงในการวางไข่ และเป็นไก่เนื้อ ไก่นิวแฮมเชียร์ให้ไข่ถึง 200-240 ฟองต่อปี และเริ่มวางไข่เมื่อมีอายุ 18 สัปดาห์ขึ้นไป สีเปลือกไข่คือ สีน้ำตาล ไก่ชนิดนี้มีน้ำหนักปานกลาง แม่ไก่มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัม ไก่ชนิดนี้ชอบวิ่งเล่น หาอาหารเก่ง และทนต่อสภาพอากาศหนาวได้มี เป็นมิตรต่อผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่จะมีนิสัยก้าวร้าวกว่าไก่สายพันธุ์อื่น ๆ หากคุณอยากเลี้ยงไก่สายพันธุ์นี้คุณต้องเลี้ยงแยกกับไก่สายพันธุ์อื่น

7.ไก่อะเมอรอคาน่า (Ameraucana)

ไก่อะเมอรอคาน่า (Ameraucana)

ไก่อะเมอรอคาน่าเป็นไก่สายพันธุ์อเมริกัน เป็นไก่ที่ให้ผลผลิตสูงอีกชนิดหนึ่ง ไก่ชนิดนี้จะวางไข่ได้ประมาณ 250-260 ฟองต่อปี และสีของไข่จะมีสีแตกต่างกัน ไก่ชนิดนี้มีชื่อเสียงเรื่องการทน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ทุกฤดูกาล และวางไข่ได้ตลอดปี ตัวเมียน้ำหนักเฉลี่ย 2-2.5 กิโลกรัม ไก่ชนิดนี้จะเริ่มวางได้อายุอยู่ที่ประมาณ 25-30 สัปดาห์ และสีของเปลือกไข่จะแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ไก่ชนิดนี้จะมีความผิดปกติที่เรียกว่า คลอสบี หรือไก่จะมีจงอยปากไขว้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อไก่ 1 ใน 100 ตัวเท่านั้น

8.ไก่ไวท์เลกฮอร์น (White Leghorn)

ไก่ไวท์เลกฮอร์น (White Leghorn)

ไก่พันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดตอนกลางในประเทศอิตาลี มีลักษณะเด่น คือ ขนเป็นสีขาว หงอนสีแดง ซึ่งไก่ไข่สายพันธุ์นี้จะที่โดดเด่นสามารถวางไข่ได้ถึง 280-320 ฟองต่อปี เปลือกไข่มีสีขาว เริ่มออกไข่ฟองแรกได้ตั้งแต่อายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป ตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัม ไก่เลกฮอร์นเป็นไก่ที่ว่องไว ฉลาด สามารถหาอาหารได้เอง เป็นไก่ที่สามารถเลี้ยงขังและปล่อยแบบไก่บ้านได้ แต่จริง ๆ แล้วไก่ชนิดนี้จะชอบพื้นที่ที่กว้างขวางมากกว่า มีนิสัยชอบนอนอยู่บนต้นไม้ และเป็นไก่ที่ส่งเสียงดัง บางสายพันธุ์จะบินไม่ได้ และจะไม่ชอบให้สัมผัสตัว หากคุณชอบสายพันธุ์ที่สวยงาม ไม่กินมาก ออกไข่เร็ว ดก เลกฮอร์นอาจจะเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ตอบโจทย์ในการเลี้ยงไก่ได้ 

9.ไก่อีซาบราวน์ หรือ ไก่ไฮบริด (ISA brown)

ไก่อีซาบราวน์ หรือ ไก่ไฮบริด (ISA brown)

ไก่อีซาบราวน์เป็นไก่ไข่สายพันธุ์ไฮบริด ที่ได้รับการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไก่ Rhode Island Reds และ Rhode Island Whites  นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ซึ่งถูกขนานนามว่า เป็นไก่ที่ออกไข่ได้ยอดเยี่ยมและให้ผลผลิตไข่ได้ในระดับสูง อีซาบราวน์เฉลี่ยวางไข่ได้ถึง 300-350 ฟองต่อปี ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงของแต่ละฟาร์มด้วย เหมาะสำหรับใครที่ต้องการทำอาชีพเสริม หรือครอบครัวเลี้ยงไว้สำหรับบริโภคกินกันเอง อีซาบราวน์จะเริ่มวางไข่ได้เมื่ออายุประมาณ 20-22 สัปดาห์ขึ้นไป น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 2 กิโลกรัม สีของเปลือกไข่ คือ สีน้ำตาล ทนต่อทุกสภาพอากาศ และสามารถออกไข่ได้ตลอดทั้งปี

10.ไก่อ๊อสตราหลอบ (Australorp)

ไก่อ๊อสตราหลอบ (Australorp)

ไก่อ๊อสเป็นสายพันธุ์ไก่ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย ในบรรดาสายพันธุ์ระดับสูงในการผลิตไข่ ไก่อ๊อสถือได้ว่าเป็นไก่ที่เป็นมิตรกับมนุษย์ มีความสามารถในการวางไข่ได้ประมาณ 250 ฟองต่อปี และเคยมีสถิติออกไข่ได้ถึง 364 ฟองต่อปี ไก่ชนิดนี้ค่อนข้างตัวใหญ่และมีมวลเนื้อมาก น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 2.9-3.5 กิโลกรัม และเริ่มวางไข่ได้ตั้งแต่อายุ 22 สัปดาห์ขึ้นไป สีเปลือกไข่มีสีน้ำตาล นิสัยของไก่อ๊อสค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับสายพันธุ์อื่น ๆ และเลี้ยงลูกไม่ดีนัก หากใครชอบไก่อ๊อสอย่าลืมหมั่นสำรวจเก็บไข่ทุกวันด้วยนะ เพราะไก่สายพันธุ์นี้สามารถกินลูกตัวเองหรือกินไข่ตัวเองได้ตลอดเวลา 

11.ไก่โรดไอส์แลนด์ (Rhode Island)

ไก่โรดไอส์แลนด์ (Rhode - Smart Farm Pro

ไก่พันธุ์นี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งไก่พันธุ์โรดไอส์แลนด์เป็นไก่ที่มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา เป็นสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าแก่ มีลักษณะขนสีน้ำตาลแดงเข้ม ปลายหางมีสีดำอมเขียว เปลือกไข่มีสีน้ำตาล จะเริ่มวางไข่เมื่ออายุ 5 เดือนขึ้นไป น้ำหนักของตัวเมียอยู่ที่ประมาณ 2.2-3.5 กิโลกรัม ส่วนตัวผู้จะมีตัวค่อนข้างใหญ่กว่าตัวเมียอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.5 กิโลกรัมซึ่งมีขนาดใหญ่มาก วางไข่อยู่ที่ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี ซึ่งเป็นที่นิยมในการเลี้ยงสำหรับสภาพอากาศประเทศไทย

จบกันไปแล้วกับการแนะนำสายพันธุ์ไก่น่าเลี้ยง สำหรับผู้เริ่มต้นหัดทำฟาร์มมือใหม่ หรือใครที่กำลังจะเริ่มต้นเลี้ยงไก่ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนการลงทุนให้ดีกันก่อน ถ้าไม่อยากพลาดสาระ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ดี ๆ รอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Smart Farm Pro ได้เลย..

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *