เกษตรกรมือใหม่หัดเลี้ยงไก่ หรือเพิ่งเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่อยู่ แล้วสงสัยว่ามีไก่สายพันธุ์ไหนบ้าง เพราะจะได้เลือกสายพันธุ์กันได้อย่างถูกต้องและตอบโจทย์ ซึ่งไก่มีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์ไก่ไข่ ไก่เนื้อ และมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ขน ขนาด น้ำหนัก รวมถึงลักษณะนิสัย แต่ละพันธุ์ก็มีความสามารถในการออกไข่ต่อปีที่มีปริมาณแตกต่างกัน “บางสายพันธุ์ออกได้สูงสุดเกือบ 400 ฟองต่อปีเลยทีเดียว!” ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ต่อการเลือกซื้อสายพันธุ์ไก่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 11 สายพันธุ์ไก่ไข่ จะมีสายพันธุ์ไหน น่าเลี้ยงบ้างตามมาดูกัน..
1.ไก่เวียนดอทท์ (Wyandotte)

ไก่เวียนดอทท์เป็นสายพันธุ์ไก่อเมริกัน สายพันธุ์นี้จะโดดเด่นในเรื่องการออกไข่ที่ดี และมีลักษณะขนที่สวยงาม นอกจากนี้ ไก่เวียนดอทท์ยังดูแลและจัดการได้ง่าย พบเห็นทั่วไป ในสวนหลังบ้านซึ่งหลาย ๆ คนเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงามและกินไข่ ไก่ชนิดนี้เริ่มออกไข่ได้เมื่ออายุได้ประมาณ 18-20 สัปดาห์ สีไข่มีสีน้ำตาลและมีขนาดไข่ที่ใหญ่ น้ำหนักแม่ไก่เฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 กิโลกรัม รักความสงบและให้ผลผลิตเนื้อสูง ให้ไข่สูงถึง 200 ฟองต่อปี และเป็น 1 ในสายพันธุ์ไก่ที่ดีที่สุดในการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ
2.ไก่มาแรน (Maran)

ไก่มาแรนเกิดการเพาะพันธุ์ครั้งแรกในประเทศอังกฤษ แต่ได้ชื่อมาจากเมืองมาเรนส์ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งไก่สายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงในฟาร์มเพื่อผลิตเนื้อสัตว์และไข่ไก่ มีความสามารถในการออกไข่ได้ปีละ 150-200 ฟองต่อปี บางตัวของสายพันธุ์นี้เริ่มออกไข่ได้ตั้งแต่อายุ 17 สัปดาห์ ไก่ชนิดนี้มีหลากหลายสีเช่น สีน้ำตาลเข้ม สีเงิน สีทอง และมีลวดลายคล้าย ๆ ไก่บาร์พลี ไก่มาแรนตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 2.4 กิโลกรัม ซึ่งจะมีลักษณะสีเปลือกไข่ที่พิเศษ คือ สีช็อคโกแลต ไก่าแรนไม่ต้องการพื้นที่ที่กว้างมากนัก เป็นไก่ที่นิสัยอ่อนโยน ไม่เสียงดัง และง่ายต่อการควบคุม
3.ไก่บาร์เนเวลเดอร์ (Barnevelder)

ไก่บาร์เนเวลเดอร์เป็นไก่บ้านสายพันธุ์ดัตช์เยอรมัน ไก่ชนิดนี้ให้ไข่ค่อนข้างดีเฉลี่ยอยู่ที่ 180-200 ฟองต่อปี เป็นไก่กึ่งไข่กึ่งเนื้อ ตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ย 2.9-3.9 กิโลกรัม เร่ิมวางไข่เมื่อเริ่มมีอายุได้ 5 เดือนครึ่งไปแล้ว สีของเปลือกไข่เป็นสีน้ำตาลและเป็นไก่ที่ให้ไข่ได้ตลอดปีโดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศใด ๆ
4.ไก่แอนโคน่า (Ancona)

ไก่สายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากเมืองแอนโคน่าในประเทศอิตาลี เมื่อเปรียบเทียบกับไก่สายพันธุ์อื่น ๆ แล้วจะค่อนข้างตัวเล็กกว่า แต่สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ไก่สายพันธุ์แอนโคน่า คือ ไก่แอนโคน่าสามารถวางไข่ได้ถึงปีละ 180-220 ฟองต่อปี โดยการเริ่มวางไข่ของไก่สายพันธุ์นี้จะเริ่มวางไข่ได้เมื่ออายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 สัปดาห์ ไก่ชนิดนี้มีผิวสีเหลือง ไข่เป็นสีขาว น้ำหนักไก่ตัวเมียเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8-2 กิโลกรัม ไก่ชนิดนี้ทนต่อสภาพอากาศที่โหดร้าย วางไข่ได้แม้ในช่วงฤดูหนาว หรือปริมาณแสงน้อยถึงจะต้องตัดขนปีกบ่อย ๆ ก็ตาม ซึ่งไก่ชนิดนี้จะชอบบินและขี้ตกใจ
5.ไก่ฮัมบูร์ก (Hamburg)

ไก่ฮัลบูร์กเป็นสายพันธุ์ไก่ที่เกิดขึ้นในประเทศฮอลแลนด์ โดยทั่วไปแล้วไก่สายพันธุ์ฮัมบูร์กจะได้รับการยกย่องว่าเป็นไก่ที่ค่อนข้างมีเสน่ห์เนื่องจากมีหลากหลายสี เช่น สีทอง สีเงิน สีดำ สีขาว และสีฟ้า ความสามารถในการวางไข่ 208 ฟองต่อปี โดยทั่วไปแล้วไข่จะมีขนาดกลาง และมีเปลือกไข่สีขาวมันวาว เริ่มวางไข่ได้ตั้งแต่อายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มวางไข่ได้เมื่อมีอายุประมาณ 28 สัปดาห์ ไก่ชนิดนี้เป็นนักสำรวจและนักล่าผู้หิวกระหาย ควบคุมได้ยาก เนื่องจากไก่ชนิดนี้จะชอบบิน และกระโดดขึ้นไปอยู่ตามต้นไม้ และวางไข่ไม่เป็นที่ น้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม
6.ไก่นิวแฮมเชียร์ (New Hampshire)

ไก่สายพันธุ์นี้เกิดขึ้นในรัฐนิวแฮมเชียร์ประเทศสหรัฐอเมริกา บรรพบุรุษของไก่สายพันธุ์นี้คือ ไก่โร้ดไอส์แลน์ อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกร และมีชื่อเสียงในการวางไข่ และเป็นไก่เนื้อ ไก่นิวแฮมเชียร์ให้ไข่ถึง 200-240 ฟองต่อปี และเริ่มวางไข่เมื่อมีอายุ 18 สัปดาห์ขึ้นไป สีเปลือกไข่คือ สีน้ำตาล ไก่ชนิดนี้มีน้ำหนักปานกลาง แม่ไก่มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัม ไก่ชนิดนี้ชอบวิ่งเล่น หาอาหารเก่ง และทนต่อสภาพอากาศหนาวได้มี เป็นมิตรต่อผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่จะมีนิสัยก้าวร้าวกว่าไก่สายพันธุ์อื่น ๆ หากคุณอยากเลี้ยงไก่สายพันธุ์นี้คุณต้องเลี้ยงแยกกับไก่สายพันธุ์อื่น
7.ไก่อะเมอรอคาน่า (Ameraucana)

ไก่อะเมอรอคาน่าเป็นไก่สายพันธุ์อเมริกัน เป็นไก่ที่ให้ผลผลิตสูงอีกชนิดหนึ่ง ไก่ชนิดนี้จะวางไข่ได้ประมาณ 250-260 ฟองต่อปี และสีของไข่จะมีสีแตกต่างกัน ไก่ชนิดนี้มีชื่อเสียงเรื่องการทน ทนต่อทุกสภาพอากาศ ทุกฤดูกาล และวางไข่ได้ตลอดปี ตัวเมียน้ำหนักเฉลี่ย 2-2.5 กิโลกรัม ไก่ชนิดนี้จะเริ่มวางได้อายุอยู่ที่ประมาณ 25-30 สัปดาห์ และสีของเปลือกไข่จะแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ไก่ชนิดนี้จะมีความผิดปกติที่เรียกว่า คลอสบี หรือไก่จะมีจงอยปากไขว้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อไก่ 1 ใน 100 ตัวเท่านั้น
8.ไก่ไวท์เลกฮอร์น (White Leghorn)

ไก่พันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดตอนกลางในประเทศอิตาลี มีลักษณะเด่น คือ ขนเป็นสีขาว หงอนสีแดง ซึ่งไก่ไข่สายพันธุ์นี้จะที่โดดเด่นสามารถวางไข่ได้ถึง 280-320 ฟองต่อปี เปลือกไข่มีสีขาว เริ่มออกไข่ฟองแรกได้ตั้งแต่อายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป ตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัม ไก่เลกฮอร์นเป็นไก่ที่ว่องไว ฉลาด สามารถหาอาหารได้เอง เป็นไก่ที่สามารถเลี้ยงขังและปล่อยแบบไก่บ้านได้ แต่จริง ๆ แล้วไก่ชนิดนี้จะชอบพื้นที่ที่กว้างขวางมากกว่า มีนิสัยชอบนอนอยู่บนต้นไม้ และเป็นไก่ที่ส่งเสียงดัง บางสายพันธุ์จะบินไม่ได้ และจะไม่ชอบให้สัมผัสตัว หากคุณชอบสายพันธุ์ที่สวยงาม ไม่กินมาก ออกไข่เร็ว ดก เลกฮอร์นอาจจะเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ตอบโจทย์ในการเลี้ยงไก่ได้
9.ไก่อีซาบราวน์ หรือ ไก่ไฮบริด (ISA brown)

ไก่อีซาบราวน์เป็นไก่ไข่สายพันธุ์ไฮบริด ที่ได้รับการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไก่ Rhode Island Reds และ Rhode Island Whites นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ซึ่งถูกขนานนามว่า เป็นไก่ที่ออกไข่ได้ยอดเยี่ยมและให้ผลผลิตไข่ได้ในระดับสูง อีซาบราวน์เฉลี่ยวางไข่ได้ถึง 300-350 ฟองต่อปี ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงของแต่ละฟาร์มด้วย เหมาะสำหรับใครที่ต้องการทำอาชีพเสริม หรือครอบครัวเลี้ยงไว้สำหรับบริโภคกินกันเอง อีซาบราวน์จะเริ่มวางไข่ได้เมื่ออายุประมาณ 20-22 สัปดาห์ขึ้นไป น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 2 กิโลกรัม สีของเปลือกไข่ คือ สีน้ำตาล ทนต่อทุกสภาพอากาศ และสามารถออกไข่ได้ตลอดทั้งปี
10.ไก่อ๊อสตราหลอบ (Australorp)

ไก่อ๊อสเป็นสายพันธุ์ไก่ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย ในบรรดาสายพันธุ์ระดับสูงในการผลิตไข่ ไก่อ๊อสถือได้ว่าเป็นไก่ที่เป็นมิตรกับมนุษย์ มีความสามารถในการวางไข่ได้ประมาณ 250 ฟองต่อปี และเคยมีสถิติออกไข่ได้ถึง 364 ฟองต่อปี ไก่ชนิดนี้ค่อนข้างตัวใหญ่และมีมวลเนื้อมาก น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 2.9-3.5 กิโลกรัม และเริ่มวางไข่ได้ตั้งแต่อายุ 22 สัปดาห์ขึ้นไป สีเปลือกไข่มีสีน้ำตาล นิสัยของไก่อ๊อสค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับสายพันธุ์อื่น ๆ และเลี้ยงลูกไม่ดีนัก หากใครชอบไก่อ๊อสอย่าลืมหมั่นสำรวจเก็บไข่ทุกวันด้วยนะ เพราะไก่สายพันธุ์นี้สามารถกินลูกตัวเองหรือกินไข่ตัวเองได้ตลอดเวลา
11.ไก่โรดไอส์แลนด์ (Rhode Island)

ไก่พันธุ์นี้น่าจะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งไก่พันธุ์โรดไอส์แลนด์เป็นไก่ที่มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา เป็นสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าแก่ มีลักษณะขนสีน้ำตาลแดงเข้ม ปลายหางมีสีดำอมเขียว เปลือกไข่มีสีน้ำตาล จะเริ่มวางไข่เมื่ออายุ 5 เดือนขึ้นไป น้ำหนักของตัวเมียอยู่ที่ประมาณ 2.2-3.5 กิโลกรัม ส่วนตัวผู้จะมีตัวค่อนข้างใหญ่กว่าตัวเมียอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.5 กิโลกรัมซึ่งมีขนาดใหญ่มาก วางไข่อยู่ที่ประมาณ 280-300 ฟองต่อปี ซึ่งเป็นที่นิยมในการเลี้ยงสำหรับสภาพอากาศประเทศไทย
จบกันไปแล้วกับการแนะนำสายพันธุ์ไก่น่าเลี้ยง สำหรับผู้เริ่มต้นหัดทำฟาร์มมือใหม่ หรือใครที่กำลังจะเริ่มต้นเลี้ยงไก่ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนการลงทุนให้ดีกันก่อน ถ้าไม่อยากพลาดสาระ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ดี ๆ รอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Smart Farm Pro ได้เลย..